วันอังคารที่ 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

มอไซค์วิน ไนโรบี เคนย่า

 
ผมเป็นคนชอบขี่มอไซค์มากครับ ในกรุงเทพผมแทบไม่ใช้รถยนต์ส่วนตัวเลยเบื่อกับรถติดและการหาที่จอดมาก ตอนแรกๆที่มาใช้มอไซค์เป็นพาหนะในกรุงเทพก็คิดเยอะเหมือนกันว่ามันอันตรายหรือเปล่า มันร้อน ฝุ่นควันสารพัด แต่ในที่สุดก็ตัดสินใจลองซื้อสกู๊ตเตอร์ PCX ของฮอนด้ามาใช้งาน  โหสวรรค์แท้ๆเลยครับ จะไปไหนไม่ต้องเผื่อเวลา ไปถึงไม่ต้องวนรถหาที่จอด ร้านอาหารหน้าตาท่าทางอร่อยริมทางที่เคยขับรถยนต์ผ่านแล้วอยากลองชิม ลองกิน แต่จนปัญญาหาที่จอด พอขับมอไซค์ทุกอย่างก็เป็นจริง ร้านไหนข้างทางหน้าตาชวนชิม แวะได้ทันทีเดี่ยวนั้น กินมันเลยอร่อยไม่อร่อยรู้กันไม่ต้องลุ้น จะเข้าตรอกซอกซอยอะไรไปได้หมด  หลังจากนั้นผมก็กลายเป็นสาวกมอไซค์ไปเต็มตัว ไปต่างจังหวัดไกลๆก็ใช้ คันใหญ่ ช่วงเทศกาลวันหยุดยาวๆแต่ก่อนไม่กล้ากลับบ้านหรือไปต่างจังหวัดที่ไหน เพราะขยาดเรื่องรถติด ก็ไม่กลัวอีกแล้ว ใช้มอไซค์ไปได้สบายๆ มอไซค์คันใหญ่ๆนี่ถ้าขี่เป็น ขี่ถูกหลักความปลอดภัยถือว่าสูงพอสมควรนะครับ แต่เอาไปเทียบกับรถยนต์คงไม่ได้ ที่เห็นข่าวพวกบิ๊กไบค์ประสบอุบัติเหตุ เท่าที่รู้มาส่วนมากถ้าไม่ประมาทก็ไม่ชินกับรถที่ใช้  พวกบิ๊กไบค์นี่จำเป็นต้องไปเรียนฝึกทักษะเลยนะครับ เพราะการตวบคุมรถการเลี้ยวอะไรนี่ไม่เหมือนรถเล็กๆ คุมรถไม่อยู่ รถมันแรงมันเร็ว ขี่ไปอันตรายมาก เมืองนอกหลายแห่งอย่างที่ญี่ปุ่นนี่เท่าที่ทราบมา ถ้าเป็นรถขนาด 250 cc ขึ้นไปต้องไปสอบใบขับขี่บิ๊กไบค์ต่างหาก และขี่บนทางด่วนได้เลย  พวกโซนยุโรบถ้าเกิน 125 cc ก็จะจัดกลุ่มเป็นรถอีกแบบ บ้านเราก็น่าแบ่งอย่างนี้นะครับ ทำสีทะเบียนให้แตกต่างออกไปเลย ให้ดูง่ายตรวจสอบง่าย แล้วก็ให้วิ่งได้ทุกถนนแบบรถยนต์ เพราะรถมอไซค์ใหญ่ๆนี่ ประสิทธิภาพไม่แพ้รถยนต์เลยครับ
     แต่ก็อย่างว่าแหละครับ เรื่องนี้ใครชอบแนวไหนก็เรียกร้องกันไป  ฝ่ายไม่ชอบไม่เห็นด้วยก็เอาเหตุผลมาค้านกันไป ถูกผิดได้เสียพิจารณากันไป กฎอะไรแก้ได้ก็แก้ อย่างกฎหมายมอไซค์บางข้อโบราณมากเช่น ต้องขับชิดขอบทางด้านซ้ายตลอดเวลาอย่างนี้เป็นต้น  กฎอย่างนี้ออกมาคนขี่มอไซค์ที่ไหนจะทำตาม ชิดซ้ายตลอดถนนบ้านเราขี่ได้ตรงไหน อันตรายยิ่งกว่าขี่เลนขวาอีก
     แต่วันนี้จะมาเล่าเรื่องมอไซค์ที่ไนโรบีให้ฟังกันครับ  ด้วยความที่ผมชอบขี่มอไซค์อย่างที่เล่าให้ฟังตอนต้น ไปเมืองไหนก็คอยมองดูว่า บ้านเมืองเค้าใช้มอไซค์อะไรแบบไหน มากน้อยอย่างไร สังเกตุดูที่ไนโรบีนี่ ใช้มอไซค์กันพอตัวครับ แต่ไม่มากเหมือนบ้านเรานะครับ ยังห่างกันเยอะ แต่ก็มีเห็นแบบใช้กันหลายแบบ ทั้งส่งของ  ใช้ส่วนตัว และใช้เป็นแท๊กซี่หรือบ้านเราเรียกมอไซค์วินนั้นแหละครับ  วินไนโรบีก็ตั้งตามจุดต่างๆ คล้ายบ้านเราแหละ ทางแยกหรือจุดตัดถนน จุดเปลี่ยนรถพวกนี้ จะเห็นตั้งวินกันเป็นกลุ่มๆ ส่วนจะมีหัวหน้าวิน คนคุมวินหรือต้องส่งส่วยหรือเปล่า อันนี้ไม่ทราบนะครับ เพราะไม่ได้ลงไปถาม มอไซค์ที่นี่ แต่งตัวเป็นระเบียบครับ น่าจะเป็นเพราะกฎหมายเข้มงวด หมวกกันน๊อคเท่าที่เห็นเป็นแบบเต็มใบปิดคางทั้งหมด แบบหมวกก่อสร้าง พาสติกก็องแก้งนี่ไม่เห็นใส่เลย ใส่เสื้อคลุมและมีเสื้อกั๊กเซฟตี้มีแถบสีสะท้อนแสงใส่ทับอีกต่างหาก คนซ้อนก็เหมือนกัน แต่งตัวครบ มอไซค์ที่ใช้เป็นมอไซค์แบยที่เรียกกันว่า มอไซค์ผู้ชายรูปทรงบึกๆถึก น่าจะเป็นเพราะสภาพถนนไม่ค่อยดี หลุมบ่อทางพังๆมีเยอะ ถามคนเคนย่าบอกว่า มอไซค์ที่ชอบใช้ที่นี่ ยี่ห้อ lifan ของจีน คงเพราะถูก ประมาณคันละสามหมื่นบาทไทย จีนนี่เป็นชาติที่ตอนนี้ลงทุนในเคนย่ามากที่สุดนะครับ ถามไกค์บอกว่า จีนมาทำถนน ทางด่วน สร้างเมืองกันเลย
     ด้วยความที่เคยเล่าไปในตอนเก่าๆว่า ไนโรบีนี่รถติดขั้นบรรลัยใน ชม เร่งด่วนเราเลยเห็นผู้คนบางส่วนนอกจากจะใช้วิธีเดินแล้วถ้ารีบๆ ก็ต้องมอไซค์วินอย่างเดียวแหละครับ วิ่งกันเกลื่อนเมือง ว่าจะหาโอกาสไปลองนั่งสักครั้งก็ไม่มีเวลา ไม่งั้นได้มาเล่าประสบการณ์สนุกๆให้ฟังกัน  เช่นเคยครับ  ความรู้คู่เดินทาง แล้วทุกอย่างจะสนุกทุกครั้ง  โชคดีทุกท่านครับ




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น