วันอังคารที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

ขับรถเมืองไทย น้ำใจกับกฎจราจร

ติดภารกิจตัดรายการสารคดีประจำไม่เสร็จเพราะทางช่องจะเร่งเอาก่อนเข้าพรรษาก็เลยไม่ได้มาเขียนประจำวันตามที่ตั้งใจ 5555 ก็พยายามแล้วนะ คิดเอาเองอย่างนั้น
      ที่ตั้งหัวข้ออย่างนี้เพราะอ่านเรื่องราวในเฟสบุค ในอินเตอเนตนี่แหละครับ เดี่ยวนี้บ้านเราโลกเรากลายเป็นโลกแห่งกล้อง โลกแห่งคลิป ทุกๆอย่างต้องแชร์ต้องบอกกล่าวให้โลกรู้ ทุกคนเป็นผู้รายงานข่าวได้ สมัยนี้ใครไม่มีกล้องถ่ายรูปนี่คงแปลกประหลาดแล้วล่ะครับ เพราะมือถือทุกรุ่นที่ใช้ๆกันก็น่าจะมีมือถือกันหมดแล้ว
    อ่านเฟสไปเจอเรื่องราวที่เพื่อนๆของผมแชร์กันมาอีกที เรื่องคลิปรถเก๋งขับปาดหน้ากันแหละกัน ค่อนข้างบ่อยกับเรื่องแนวนี้แต่ที่ผมสนใจคือ คอมเมนต์ต่างๆที่คนเข้ามาดูแล้วก็เขียนกันไป ตามที่ตนรู้สึก สรุปก็มีทั้งแนวว่า คนขับที่แซงไม่มีมรรยาทผิดกฎ และอีกแนวก็คือ คนแซงน่ะผิดอยู่แล้ว แต่คนที่ถูกปาดถูกแซง ก็ไร้น้ำใจและเกินไปหน่อย ก็ให้เหตุผลกันไป เรื่องใครผิดใครถูกผมไม่ขอสนใจน่ะครับ ดูกันเองพิจารณาอันเอง แต่เรื่องที่อยากจะพูดคือ เรืองการขับรถในเมืองไทย
    เรื่องขับรถบ้านเรานี่ ในรายการผมก็เสนอให้คุณประกรณ์ แกพูดในรายการบ่อยครั้งแล้ว ประเด็นมันอยู่ที่ว่า เคยสังเกตุเรื่องการขับรถของคนไทยเราไหมครับว่ามีเอกลักษณ์ที่โดดเด่นไม่เหมือนชาติใดในโลกเลย ยกตัวอย่างมาให้เห็นลักษณะเด่นๆก็มีดังนี้ครับ
   1  ขับเร็ว ไม่ว่าถนนเล็กถนนใหญ่ ในเมือง นอกเมืองใส่กันไม่ยั้ง ในเมืองนี่ ลองถนนโล่งๆดิ ใส่กันเป็นร้อย  นอกเมืองขนาดถนนด่าๆกันว่าไม่ดี นี่เหยียบกันร้อยกว่าๆ ทุกคน เชื่อไหม ผมเคยขับจากกรุงเทพกลับโคราช ใช้ความเร็วประมาณ 90 กม รถทุกคันที่วิ่งไปทางเดียวกับผมแซงผมหมด แม้นกระทั่งมอไซค์คันเล็กๆ จะมีใครผมแซงได้บ้างก็รถอีแต๋น กับจักรยานเท่านั้น  ส่วนในกรุงเทพผมขับไม่เกิน 60 ทุกคนที่แซงผมไป ไม่หันมามองหน้าก็ทำปากขมุบขมิบกันทั้งนั้น 5555 สงสัยคงอวยพรให้ผม
   2  ใจร้อน  คนบ้านเรานี่แปลกนะครับ เดินธรรมดานี่ยิ้มแย้มแจ่มใส ใจเย็น อะไรนิดอะไรหน่อย หยวนๆยอมกันได้ แต่พอลองไปอยู่หลังพวงมาลัย ใส่เกียร์ขับรถเมื่อไรล่ะก้อ เปลี่ยนร่างทันที  ใจร้อนขึ้นมาเลยไม่ว่าหญิงชาย หนุ่มแก่ จะขับรถถุก รถแพง เป็นเหมือนกันหมด บางคนก็ไม่ใช่คนใจร้อนอะไร แต่พอขับรถออกอาการใจร้อน ขี้หงุดหงิดกันหมด เคยถามเคยนั่งคุย ก็บอกไ่ม่รู้เหมือนกัน บางคนก็บอกว่าอากาศร้อน รถติด โหนี่ขนาดอยู่ในรถเก๋ง แอร์เย็นๆน่ะนี่
   3  ห้ามใช้แตรเด็ดขาด ยกเว้นฉุกเฉินเป็นตาย รถยนต์ที่ใช้ในบ้านเราโดยเฉพาะกรุงเทพนี่ มีแตรได้แต่ห้ามกดเด็ดขาด อาจเป็นเรื่องเป็นราว ยิงกันตายฆ่ากันตาย แค่เรื่องแตรนี่แหละครับ ไม่เชื่อผมลองสังเกตุตัวเองดูสิ เวลาขับรถถ้ามีคนมากดแตรข้างหลังนี่ เราจะแบบออกอาการก่อนเลย ประมาณว่า บีบแตรทำไมว่ะ หาเรื่องเหรอ ทั้งๆที่ยังไม่รู้อะไร อาการจะออกแนนี้เกือบทุกคน 5555 ก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่า เสียงแตรมันเหมือนเสียงด่าพ่อล่อแม่ตรงไหนหว่า มันก็เสียงแตรธรรมดาๆ

      อย่างที่ยกตัวอย่างมาให้ดูกันนี่แหละครับ ไม่เหมือนชาติไหนในโลกนะครับ ผมเองเวลาไปถ่ายสารคดีที่ไหนนี่ ก็ต้องมีโอกาสใช้รถใช้ถนนของบ้านเมืองเค้าอยู่แล้ว สังเกตุตลอดเวลาว่าเมืองไหน นิสัยจราจรเป็นอย่างไร ยกตัวอย่างเอาใกล้บ้านเราก่อน พม่าเพื่อนบ้าน ถ้าย่างกุ้งตอนนี้ รถติดยิ่งกว่าบ้านเราเพราะรัฐยังไม่ควบคุมเรื่องการนำเข้ารถ โตโยต้าอัลพาร์ทปีใหม่ๆ บ้านเราหลายล้านที่นั้นใช้เป็นรถตู้รับจ้าง ผมใช้เป็นรถกองถ่าย นั่งสบายมากถามว่าราคาเท่าไร คนขับบอกประมาณสามแสนบาท ถ้าจำไม่ผิดน่ะ แต่ที่แน่ๆถูกมากๆเพราะรถราคาถูกพอเศรษฐกิจเริ่มดีมีกะตังค์กัน ก็แห่ซื้อรถกันมาก แต่ถนนยังไม่ค่อยจะมีเท่าไร รถติดกันแบบไม่ขยับ แต่บีบแตรไล่กันนี่ไม่โกรธนะ เคยไปนอกเมืองขึนเขาสูง ทางสองเลนวิ่งสวนกัน แซงกัน ปาดกัน ไม่ว่ากันเพราะขืนไม่แซง เจอรถบรรทุกช้าๆวิ่งขึ้นเขาไม่ไหว ก็ต้องแซงออกไปเลย แต่พม่าไม่ขับรถเร็วเท่าไร
   อินโดนีเซีย นี่อย่างแถวเกาะสุมาตราเมืองใหญ่ๆ อย่างเมดาน รถติดกระจายหนักว่าบ้านเรา บีบแตรไล่กันเป็นที่สนุกสนาน แต่ไม่มีใครอารมณ์เสียลงมาเอาเรื่องกัน  ไอ้เรานั่งลุ้นเห็นบีบแต่ไล่กันดังสนั่น นึกว่ามีเรื่องแน่ๆ แต่เปล่าเลย ต่างคนต่างเฉย แค่บีบแตร  ยิ่งออกไปนอกเมืองวิ่งบนเขานี่ อินโดสุดยอดมาก แนะนำว่าคนไทยหรือแม้นกระทั่งคนชาติไหนอย่าได้ไปขับรถที่อินโด  พี่แกทั้งปาด ทั้งแซง แบบกระชั้นชิด ผมนั่งหน้าตลอดเพราะต้องคอยเก็บภาพ นั่งลุ้นช่วยเบรคไปตลอดทาง วันหลังๆเริ่มชินกับสไตล์อินโด ลองสังเกตุดู เออ มันยอดกันแฮะ ถ้าอีกคันแซงสวนขึ้นมา แล้วอีกคันเห็นว่า มันไปได้ เค้ายอมกันนะ ก็หักหลบ กดเบรค หรือชลอ กันไป ไม่เอาชนะกัน ว่ากูถูก มึงผิด เส้นทึบ เส้นประ วิ่งบนเขาหลายวันไม่เห็นอุบัติเหตุเลย คนบ้านเค้าคงรู้จังหวะกันดีผมว่านะ
     เวียดนามนี่ก็สุดยอด อยู่บนถนนเวียดนามไม่ได้ยินเสียงแตรรถนี่ ต้องนึกว่ามาผิดประเทศ ถึงขนาดมีคนเล่าตลกว่า คนเวียดนามถ้ารถเบรคเสียนี่ เฉยๆไม่รู้สึกอะไร ขับใช้รถเป็นปกติธรรมดา แต่ถ้าแตรเสีย กดแล้วไม่ดังนี่เป็นเรื่อง ต้องเอาไปซ่อมให้ดีก่อนเอามาใช้ คนเวียดนามเค้าถือว่า การบีบแต่ขณะขับรถนี่เป็นสิ่งที่ถูกต้องนะครับ เค้าบีบแตรเพื่อบอกตำแหน่งของเค้าว่า ฉันอยู่ตรงนี้นะ แล้วทุกคนก็มองไปข้างหน้า วิ่งตรงไปข้างหน้า จะรถจักรยานยันรถบรรทุก วิ่งเสมอภาคกันหมดสมเป็นเมืองคอมมิวนิสต์ เวลาจะเลี้ยว รถทุกคันมันจะไหลๆ หลบกันไปเอง ขนาดห้าแยกหกแยก ที่แออัดสุดๆของฮานอยนี่ ผมไปตั้งกล้องที่สูงแล้วถ่ายลงมา เห็นชัดเลยครับ ทุกอย่างมันเคลื่อนที่ไปของตัวเอง ดูไม่เป็นระเบียบ แต่ทุกคนก็ไปกันได้ คนเดินนี่เดินตัดกลางแยกเลย เดินไปเรื่อยๆเค้าห้ามหยุดนะครับ เดินด้วยความเร็วคงที่แบบสบายๆ รถทุกคันจะเลี้ยวจะอ้อมตัวคุณไปเอง เหมือนเดินแหวกทางน้ำยังไงยังงั้น ผมไปเวียดนามบ่อย แทบไม่เห็นอุบัติเหตุแรงๆเลย เค้าไปช้าๆ แต่ไม่ต้องหยุด ไหลๆกันไป ดูคลิปที่ผมตัดมาให้ดู จะเห็นภาพชัดเจนครับ
 
    สิ่งเหล่านี้มันบอกอะไรเราบ้างล่ะครับ มันสะท้อนสิ่งที่เราไม่ได้เป็นแต่เราพยายามจะเป็น แล้วก็ไปถือมั่นเอาจริงเอาจัง เราพยายามจะเป็นคนเคารพกฎจราจรทั้งที่ผมเชื่อว่าคนไทยเราแทบทุกคนไม่ได้เคารพจริงจัง ดูเรื่องความเร็วก็ได้ เราใช้ความเร็วกันเกินกฎหมายแทบทุกคัน ถ้าไม่มี ตร มาคอยตั้งด่านรับรองไม่มีคันไหนยอมขับช้า  ถ้าไม่มี ตร มาคอยล๊อคล้อหรือยืนไล่ เราก็จอดรถในที่ห้ามจอด แถวใต้สถานนีรถไฟฟ้า เวลาเลิกงานเห็นกันจนเบื่อ กระพริบไฟกันเป็นแถวยาว เสียไปหนึ่งช่องทางสองช่องทาง แต่ถ้าเวลาเราเป็นคนถูกกฎขึ้นมาล่ะก้อ เราจะเป็นจะตายให้ได้กับพวกผิดกฎ ฆ่าได้หยามไม่ได้ประมาณนั้น 55555 ผมไม่ได้เห็นด้วยกับเรื่องการทำผิดกฎจราจรนะครับ แต่ผมคิดว่า กฎใจน่ะสำคัญกว่ากฎจราจร มีน้ำใจให้กันสำคัญกว่า ต้องเอาตรงนี้มาก่อน แล้วกติกามาทีหลัง อากาศมันก็ร้อน รถมันก็ติด มาใจเย็นๆ ยอมๆกันบ้างเถอะครับ ใครมันจะเอาเปรียบเรา ก็ปล่อยมันเอาเปรียบซะให้เข็ด  เดี่ยวมันก็เบื่อไปเอง 5555  สุดท้ายครับ ความรู้คู่เดินทาง สนุกสนานทุกครั้งที่ไป  โชคดีทุกท่านครับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น