โรคระบาด กับสังคมโลกยุคใหม่ ไทยเราจะรับมืออย่างไร

ทุกวันนี้โลกของเราเป็นโลกแห่งข่าวสาร การรับรู้ การแลกเปลี่ยนข้อมูลใครทำอะไรที่ไหน ต้องบอกกันต้องรับรู้ไปทั่วกัน ไม่ใช่เฉพาะแค่เพื่อนฝูงของเราแล้ว แต่ถ้าคุณเป็นคนเปิดเผยเป็นคนดังหรือพวกเนตไอดอลนี่ ต้องเรียกว่า จามที่เมืองไทยได้ยินถึงไซบีเรียกันแล้วครับ ที่นี้สิ่งที่ตามมากับข้อมูลข่าวสารก็คือเรื่องของการรับรู้ การกลั่นกรองว่าสิ่งใดน่าเชื่อส่ิงใดไม่น่าเชื่อก็เป็นสิ่งจำเป็นที่ควบคู่ไปด้วยกัน ในตอนนี้ข่าวเรื่องเกี่ยวกับสุขภาพของเราๆท่านๆคงไม่พ้นข่าวเรื่อง ไวรัสน่าจะตัวใหม่นะที่ชื่อว่า ไวรัสเมอร์สที่กำลังระบาดที่ประเทศเกาหลีใต้ เจ้าไวรัสตัวนี้เชื่อกันว่า มีสาเหตุต้นกำเนิดมาจาก อูฐแถวตะวันออก แต่จะแพร่เข้าไปโด่งดังสร้างชื่อในเกาหลีได้อย่างไรนั้น ไม่ทราบเหมือนกัน สิ่งที่อยากเอามาเล่าให้ฟังในวันนี้คือเรื่องของโรคระบาดครับ หลายท่านอาจจะยังไม่ทราบเพราะยุคนี้การแพทย์ก้าวหน้าไปเยอะมาก โรคร้ายๆอันดับต้นๆในอดีตถูกกำหราบไปหลายโรค แต่เมื่อก่อนในยุคกลางของยุโรปประมาณปี คศที่ 14 เกิดโรคระบาดชนิดหนึ่ง เรียกกันว่า Black Death บ้านเราเรียกว่า กาฬโรค หรือแปลเอาบ้านๆ ว่า โรคดำ เหตุใช้คำว่าดำ ก็เพราะว่า เมื่อติดโรคนี้แล้ว ผิวหนังจะเป็นสีดำแล้วก็ตายไป หรืออาจจะมาจากว่า คนยุคนั้นมันเจ็บไข้ได้ป่วยกันมาก จนหน้าดำคร่ำเครียดก็ว่ากันไป จะด้วยเหตุผลดำอะไรก็แล้วแต่ แต่ที่แน่ๆ คือประชากรของยุโรปนี้ตายไป 1 ใน 3 เลยทีเดียว ประมาณกันว่า 70-200 ล้านคน เรียกได้ว่า ยกทวีปตายกันอย่างพร้อมเพรียงไม่มีเหงา ตายกันขนาดที่เรียกได้ว่า ฝังไม่ทัน เผาไม่ทันกันเลยทีเดียว ว่ากันว่าไอ้เจ้ากาฬโรคนี่กำเนิดที่ เอเซียกลางแล้วก็เดินทางมาตามเส้นทางสายไหม เข้าสู่ยุโรปโดยมีหนูเป็นพาหนะ ที่นี้ยุคนั้นยุโรปนี่เป็นบ้านเมืองหนาแน่นกันแล้ว แต่เรียกได้ว่า ยังสกปรกได้ถ้วยกันอยู่ ลอนดอนนี่เป็นเมืองแห่งขยะในยุคนั้นเลย เมื่อหนูซึ่งเป็นพาหะของโรคมาเจอเข้ากับ ความสกปรกหนาแน่นของเมือง ก็ต้องใช้คำว่า บรรลัยสิครับ ไฟได้น้ำมันยังไงยังงั้น ประมาณ 2-3 ปี เท่านั้น ยุโรปตายเรียบ แต่มีประหลาดอยู่ที่เดียวคือที่เมืองมิลานประเทศอิตาลี แทบไม่มีการตายเพราะเชื่อกันว่า ลีโอนาร์โด ดาวินชี สั่งให้ขุดคลองล้อมเมืองเอาไว้ โรคระบาดเลยแพร่เข้ามาไม่ได้ ส่วนอิตาลีเมืองอื่นๆตายเรียบไม่น้อยหน้าใคร ในบ้านเรานี่ก็ใช่ย่อยนะครับ ในสมัย ร2 ร3 นี่โรคห่าหรืออหิวาตกโรค เล่นไปซะหลายหมื่นคนตายไม่ทันเผา ต้องเอาศพไปวางทิ้งเอาไว้ที่วัดสระเกศ ซึ่งตอนนั้นเป็นวัดนอกเขตเมือง แล้วฝูงอีแร้งมารุมกิน จนเกิดคำว่า แร้งวัดสระเกศ เปรตวัดสุทัศน์ มาถึงปัจจุบัน กลับมาเรื่องโรคระบาดปัจจุบันบ้าง การระบาดของโรคไวรัสเมอร์สนี่ ไทยเรานิ่งเฉยไม่ได้นะครับ อย่าลืมว่า เกาหลีใต้นี่เป็นสถานที่เที่ยวยอดฮิตติดอันดับของไทย เราไปตามรอยซีรีย์เกาหลีอย่างเอาเป็นเอาตาย ช่วงวันหยุดยาวของไทยนี่ สถานที่เที่ยวฮิตๆ ย่านช๊อปปิ้งฮ๊อทๆ ของเกาหลี พี่ไทยเดินแทบจะชนกันตาย ในร้านขายเครื่องสำอางเกาหลีจะเห็นทั้งสาวและไม่สาวไทยเรา เลือกซื้อเครื่องสำอางอย่างที่ต้องใช้คำว่า ยิ่งกว่าแจกฟรี ถือถุงเดินตัวเอียงเลยทีเดียว เมื่อมีการติดต่อเดินทางกันขนาดนี้ โอกาสที่จะเกิดการระบาดของโรคก็มีสูง แต่เท่าที่ทราบมา ก็ยังไม่เห็นประกาศของกระทรวงสาธารณสุขในเรื่องนี้ออกมาแต่อย่างไร เห็นข่าวแต่เพียงว่า ให้เตรียมรับมือ และล้างมือให้สะอาดทุกครั้ง ผมก็ได้แต่ งงๆ ว่าให้เตรียมรับมือนี่ ผมจะต้องเตรียมอะไรบ้าง หรือแค่เตรียมล้างมือก็พอ ดังคำกล่าวที่ว่า ล้างมือไทย ห่างไกลทุกโรค ขอให้ทุกท่านโชคดีครับ ล้างมือทุกครั้งที่มีโอกาสจับภรรยานะครับ