วันพฤหัสบดีที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

การล่าสัตว์ จริยธรรมกับเกมกีฬา

ภาพถ่ายที่แอฟริกาครับ ทั้งซิบบับเว่ แซมเบีย  ส่วนสิงโตถ่ายที่เคนย่าครับ คำบรรยายตามภาพเลยครับ

    กำลังร้อนแรงในโลกโซเซี่ยลสุดๆ กับเรื่องของเจ้าเซซิล สิงโตเซเลบที่โดนหมอฟันอเมริกันฆ่าตาย แล้ววันนี้ยังเป็นวันพระใหญ่สำหรับชาวพุทธครับ วันอาสาฬหบูชา สำหรับชาวพุทธส่วนมากก็ไปทำบุญเวียนเทียนกันตามประเพณีนิยม และตามปกติแล้ววันนี้โรงฆ่าสัตว์ก็หยุดมาตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว ปัจจุบันหยุดหรือเปล่าก็ไม่ทราบแน่ชัดเหมือนกัน เพราะอายุเริ่มเยอะ ไม่ค่อยได้กินเนื้อสัตว์ใหญ่มานานแล้ว ไม่ได้เคร่งถือศีลอะไรหรอกครับ กินไม่ไหวเอง5555 แต่ก็ไม่ได้เลิกกินอะไรเฉพาะนะครับ กินเนื้อได้ทุกอย่าง แต่บังเอิญดาวเรืองเลิกกินเนื้อวัว ตามมาด้วยเนื้อหมู ผมก็เลยกินน้อยลงไปด้วยเพราะส่วนมากจะทำกับข้าวกินเองที่บ้าน ถือว่าได้บุญได้กุศลไปโดยปริยาย ส่วนพวกเนื้อสัตว์แปลกๆ ที่ไม่ได้เลี้ยงเป็นปศุสัตว์หรือสัตว์ป่านี่ เลิกกินเด็ดขาดมานานแล้วครับ  ไม่สนับสนุนด้วย จำได้ว่าสมัยเป็นผู้จัดการบ้านจัดสรร ตอนทำโครงการสร้างบ้านนั้น พื้นที่เดิมเป็นทุ่งหญ้าโล่งๆสลับกับหนองน้ำ ก็มีพวกนกแปลกๆมาอาศัยทำรังกัน  คนงานก่อสร้างก็มักจะมาดักเอานกเหล่านี้ไปเป็นกับข้าวเสมอ เดินถือนกกลับแคมป์คนงานผ่านออฟฟิสผมทุกเย็น ผมก็จะแวะออกมาดูเพื่อขอซื้อนกเหล่านั้น โดยตีราคาให้เท่ากับเนื้อหมูหรือเนื้อสัตว์ที่เค้าต้องการ ก็เป็นเงินไม่มากหรอกครับ แต่บางครั้งนกเหล่านั้นก็บาดเจ็บมากแล้ว เอาไปปล่อยก็คงไม่รอด ก็ต้องให้เค้าเอาไปกินกัน ถามว่าทำไมผมไม่ห้ามพวกคนงาน ตอบได้เลยครับว่า ไปห้ามไม่ได้หรอกครับ  พวกคนงานเค้าก็ต้องการอาหาร รายได้เค้าไม่ได้มากมายอะไร และวิถีชีวิตเค้าก็ดักนกดักหนู เอามาทำกับข้าวเป็นอาหารมาแต่ไหนแต่ไร เค้าไม่ได้เติบโตมาพร้อมกับซุปเปอร์มาเก็ต หรือ 7-11 หน้าปากซอยบ้านที่หิวเมื่อไรก็แวะมา หรือถึงมันจะมีตั้งอยู่ กำลังซื้อเค้าก็ไม่พอที่จะจ่ายอะไรขนาดนั้น เมื่อเห็นอาหารใกล้ๆรอบตัวก็เป็นธรรมดาที่จะจับมากิน  ซื้อบ่อยครั้งมากเค้า พวกคนงานก็ถามว่า ผมซื้อไปทำไม เลี้ยงก็ไม่ได้เลี้ยง กินก็ไม่กิน เอาไปปล่อยหมด ก็ไม่กล้าตอบพวกเค้าแบบโลกสวยอะไรหรอกครับว่า เป็นนักอนุรักษ์ นกกำลังจะหมดโลกอะไร กลัวเค้าไม่เข้าใจจะพาลไม่ขายให้เอา ก็ตอบไปง่ายๆว่า เห็นมันสวยดี เวลาทำงานเหนื่อยๆ ออกมานั่งพักเห็นมันบินไปมา ชอบแต่ขี้เกียจเลี้ยง ไม่อยากรับผิดชอบหาอาหารให้มัน  ตอบไปอย่างนี้ เออ เข้าใจง่ายแฮะ พวกคนงานเลยบอกว่า งั้นคราวหลังพวกผมจะทำกับดักแบบไม่ให้พวกนกมันบาดเจ็บมาก เวลาปล่อยมันจะได้ไม่ตาย  อ้าวงั้นก็แจ๋วเลยดิ กิจการซื้อนกปล่อยป่าของผมก็เจริญรุ่งเรืองมาโดยตลอด นกที่ถูกจับได้ไม่บาดเจ็บมากนัก เวลาเดินมาไม่เจอผม พวกเค้าก็จะรอหรือไม่ก็กลับมาอีกครั้ง ไม่มีพวกนกที่ต้องตายอีก ส่วนผมก็ทำเรื่องนี้เสนอเจ้านายไป ว่าของบประมาณมาซื้อนกด้วย ไม่มากมายอะไร โดยให้เหตุผลว่า ต่อไปนกพวกนี้มันคงมาอาศัยอยู่ในสวนสาธารณะของหมู่บ้านที่เราสร้างมาทดแทนหนองน้ำที่อยู่เดิมของมัน เจ้านายโดนผมกล่อมทุกวันก็เริ่มเคลิ้มตาม อนุมัติงบมาให้ผมจัดการ

     หลายท่านอาจคิดแย้งว่า ยิ่งผมไปรับซื้อนกเหล่านั้น มันก็ยิ่งไปสนับสนุนการล่านกนะแหละ ห้ามไปเลยดีกว่า เรื่องนี้มันไม่ง่ายอย่างนั้นนะครับ เราต้องไม่ลืมว่า คนเรานั้นมาจากที่มาต่างกัน วัฒนธรรมความเชื่อที่แตกต่าง ความลำบากในการใช้ชีวิต มีชีวิตที่แตกต่างกัน ย่อมคิดไม่เหมือนกัน เรียกง่ายๆว่า โลกใบเดียวกันแต่มองคนละมุม เมือมองคนละมุมมันก็กลายเป็นคนละเรื่องกันเลยแหละครับ คนที่มาจากสังคมที่ต้องพึ่งพาตัวเอง อยากกินเนื้อสัตว์ก็ต้องหาเอาเอง ล่าเอง ฆ่าเองนั้น เค้าก็จะเคยชินกับสิ่งเหล่านั้น ส่วนคนเมืองที่สังคมเปลี่ยนไปเป็นสังคมแบบพึ่งพาซับซ้อน ย่อมไม่คุ้นเคยกับการล่า การฆ่า เป็นธรรมดา เมื่อเห็นเมื่อรับรู้เรื่องเหล่านี้ ความอ่อนไบหวกับเรื่องเหล่านี้ก็มากเป็นธรรมดา คนเมืองอยากกินเนื้ออะไรก็แค่ไปที่ซุปเปอร์มาเก็ตใหญ่ๆ มีชิ้นเนื้อสัตว์ตัดตบแต่งเรียบร้อยให้เลือก เนื้อจระเข้ นกกระจอกเทศ เนื้อกวาง ยังมีขายเลยครับ แต่แถวไร่กาแฟผมที่บนดอยวาวี เชียงรายนี่ ร้านขายของที่ใกล้สุดในตัวตำบลต้องขับรถขึ้นเขาลงห้วย ไปสามสิบแปดดอย 55555 ระยะทางประมาณ 10 กม ทางลูกรังขับมอไซค์เร็วสุด ต้องมีครึ่งชม ถ้าหน้าฝน ฝนตกหนักๆอาจต้องใช้เวลา 3วัน กว่าจะถึงร้านขายของในตำบล จะซื้อของมาตุนมาแช่ในตู้เย็นก็ไม่สะดวกนักเพราะแถวนั้น ไฟฟ้าหลักยังไม่เข้า ต้องใช้ไฟฟ้าพลังน้ำ พลังแสงอาทิตย์กันอยู่  เพราะอย่างนี้คนแถวไร่ผม ถ้าอยากกินเนื้อก็ต้องยิงนกยิงหนูกันไปตามเรื่อง ถ้าอยากจะกินหมูกินวัวกันจริงๆ ก็ต้องงานใหญ่ๆ เท่านั้น ล้มวัวล้มหมูกันที ก็ต้องแจ้งข่าวกันล่วงหน้า ว่าบ้านไหนจะเอาเนื้ออะไร เอากี่โล ซื้อขายกันล่วงหน้าเหมือนทองคำเลยครับ 55555 ไม่มีคนเอาเนื้อจนคุ้มก็ฆ่าไม่ได้ คนแถวนั้น ก็กินแต่ผักกันตัวเขียวไปหมด ทุกมื้อก็ผักสด ผักต้มไปตามเรื่อง

      นี่แหละครับ ชีวิตจริงของสังคมโลกเรา ฆ่าเป็นอาหารนี่ผมว่าไม่ผิดหรอกครับ ไม่ว่าจะเป็นสัตว์อะไรแต่ต้องดูว่าสังคมไหนด้วยนะครับอย่าไปฝืนกระแสเค้า สัตว์ไหนสังคมไหนเค้าไม่กิน ก็อย่าไปกินมันเลย ส่วนถ้าสังคมไหนเค้ากินกัน คนส่วนมากเค้ากินกัน คนสังคมอื่นก็อย่าไปยุ่งกับเค้าเลย เราก็ต้องถืออุเบกขาปล่อยวางเหมือนกัน แต่ถ้าล่าเอาขนเอาหนังเอาเขาเอางา เอาส่วนประกอบย่อยๆแต่ต้องฆ่าทั้งตัวนี่ต้องด่าต้องประนามอย่างหนัก พวกล่าสัตว์ฆ่าสัตว์เป็นเกมกีฬานี่ อันนี้ผมก็ไม่เห็นด้วยครับ ยกเว้นกรณีการฆ่าเพื่อควบคุมประชากรตามหลักสมดุล แต่ก็ตรงจุดนี้แหละครับ ที่การฆ่าเพื่อสมดุลประชากรสัตว์ถูกนำมาใช้เป็นเหตุผลของการฆ่าเพื่อเกมกีฬา ในแอฟริกามีหลายประเทศที่อนุญาติให้ล่าสัตว์บางชนิดได้ เลยเกิดเป็นช่องโหว่จนเกิดกรณีแบบ เซซิล สิงโตเซเลป อย่างนี้ก็ต้องด่าแบบไม่ต้องคิดแหละครับ ว่าเป็นเรื่องปมด้อยผู้พิชิตของผู้นิยมการล่าจริงๆ  สุดท้ายครับ  ความรู้คู่เดินทาง สนุกสนานทั้งชีวิต  โชคดีครับ
















ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น