วันนี้ขอเปลี่ยนแนวไปเขียนเรื่องการรุนแรงในโลกเราช่วงนี้บ้าง หลายท่านคงได้อ่านข่าวเร็วๆนี้ว่าที่ตูนิเซีย เกิดการสังหารหมู่นักท่องเที่ยว เกือบ 40 คนส่วนมากก็เป็นชาวยุโรปคนอังกฤษ มือสังหารซึ่งตามประวัติก็บอกว่า เป็นนักศึกษาเรียบร้อย เงียบๆไม่มีปากเสียงหรือจะส่อแววเป็นคนรุนแรงแต่อย่างไร เดินถือปืนไล่ยิงนักท่องเที่ยวแขกที่พักใน รร เดินยิงตามหาดแบบไม่สนโลกเลยทีเดียว รายละเอียดชัดๆหาอ่านได้ตามเนตเลยครับ มีคลิปวิดิโอเห็นตอนมือปืนเดินไล่ยิงด้วย
เห็นข่าวประเภทนี้ก็ละเหี่ยใจ ว่าเกิดขึ้นถี่ๆบ่อยมากขึ้นและมีแนวโน้มจะรุนแรงมากขึ้นแรื่อยๆ ส่วนสาเหตุของสังหารประเภทนี้ก็มักเป็นความขัดแย้งทางด้านการเมืองน่ะแหละครับ รบตรงๆกันไม่ได้ ก็หันมาฆ่าคนไม่รู้เรื่องไม่รู้ราวแทน แก้แค้นเอาความสะใจกันเป็นหลัก สาเหตุของความขัดแย้งจะเป็นเรื่องอะไร ใครถูกใครผิดผมว่าคงอยู่ที่วิจารณญาณและการหาข้อมูลของแต่ละท่าน อาจเหมือนหรือแตกต่างกัน ไม่ว่ากัน
บ้านเราเองถึงแม้นว่าจะยังไม่มีเหตุการณ์อย่างนี้เกิดขึ้น แต่ผมพูดได้อย่างเต็มปากเลยว่า อย่าประมาทอย่าไปคิดว่า เอ้ยนี่มันเรื่องของพวกตะวันออกกลาง นี่มันเรืองของพวกยุโรปพวกฝรั่ง เราคนไทยไม่เกี่ยว ใครเค้าจะมาทำอะไรเรา เมื่อหลายปีก่อนจำเหตุการณ์ วางระเบิดที่เกาะบาหลีได้ไหมครับ เกิดเมื่อปี 2545 ตายกันไป 200 กว่าศพ เป็นนักท่องเที่ยวชาวออสเตรเลียซะ 80 กว่าคน นั้นก็เป็นเหตุการณ์ที่ใกล้ๆบ้านเรา แม้นแต่ในไทยเอง ไม่ใช่เราไม่เคยมีการก่อการร้ายนะครับ เรามีหลายครั้งเลยทีเดียว หรือการรอดพ้นคาร์บอมขนาดใหญ่อย่างหวุดหวิดเมื่อปี 2537 วัตถุระเบิดที่พบครั้งนั้น ขนาด 1 ตันนี่ทำลายตึกได้ทั้งหลัง รัศมีทำลายล้างเป็น กมๆเลย ถ้าไอ้แขกที่มันกำลังจะขับคาร์บอมไม่ชนกับมอไซค์แล้วหนึไปก่อนนี่ งานนั้นดูไม่จืดแน่นอน ไม่อยากคิดเลยครับ
หลายๆประเทศที่ผมมีโอกาสเดินทางไปถ่ายสารคดีก็มีเรื่องอย่างนี้ครับ ประเทศไหนที่เจอบ่อยหรือเจอประจำก็เข้มงวดซีเรียสกันแบบกระดิกตัวไม่ได้ อย่างที่เคนย่าที่เพิ่งไปมานี่ ก็เจอกับเรื่องแนวนี้บ่อยครั้ง ทั้งสังหารหมู่ คาร์บอม ในเมืองไนโรบีซึ่งเป็นเมืองหลวงของเคนย่า จะมีความเข้มงวดเรื่องความปลอดภัยเป็นอย่างมาก อาคารสถานที่สำคัญๆห้ามถ่ายรูปเด็ดขาด ไม่ว่ากล้องอะไร ถ่ายปุ๊บ จะมีเจ้าหน้าที่เข้ามาจัดการกับคุณเลย เดี่ยวเรื่องนี้ผมจะเขียนอย่างละเอียดอีกครั้ง
เมื่อความรุนแรงมันเกิดได้เสมอและแน่นอนครับไม่มีใครรู้เล่วงหน้า เราจะทำอย่างไรซึ่งผมก็แนะนำว่า ถ้าท่านเป็นนักท่องเที่ยวธรรมดาไม่ได้ไปทำงานอะไร พื้นที่ตรงไหนมีแนวโน้มความรุนแรง มีความเสี่ยงก็เลี่ยงเถอะครับ อย่าได้ไปเฉียดอย่าได้ไปใกล้ เกิดอะไรมาไม่คุ้มเลย ถ้าเดินทางเที่ยวเองต้องหาข้อมูลให้พร้อมและทันสมัย หรือแม้นแต่จะไปกับทัวร์ก็แล้วแต่ ตัวเราเองก็ต้องมีข้อมูลพื้นที่นั้นๆด้วยเหมือนกัน ไม่ใช่ไม่รู้เรื่องอะไรเลย เชื่อผมเถอะครับ ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน เท่านั้น วันนี้สั้นๆครับ ขอให้โชดดีทุกท่านครับ
เห็นข่าวประเภทนี้ก็ละเหี่ยใจ ว่าเกิดขึ้นถี่ๆบ่อยมากขึ้นและมีแนวโน้มจะรุนแรงมากขึ้นแรื่อยๆ ส่วนสาเหตุของสังหารประเภทนี้ก็มักเป็นความขัดแย้งทางด้านการเมืองน่ะแหละครับ รบตรงๆกันไม่ได้ ก็หันมาฆ่าคนไม่รู้เรื่องไม่รู้ราวแทน แก้แค้นเอาความสะใจกันเป็นหลัก สาเหตุของความขัดแย้งจะเป็นเรื่องอะไร ใครถูกใครผิดผมว่าคงอยู่ที่วิจารณญาณและการหาข้อมูลของแต่ละท่าน อาจเหมือนหรือแตกต่างกัน ไม่ว่ากัน
บ้านเราเองถึงแม้นว่าจะยังไม่มีเหตุการณ์อย่างนี้เกิดขึ้น แต่ผมพูดได้อย่างเต็มปากเลยว่า อย่าประมาทอย่าไปคิดว่า เอ้ยนี่มันเรื่องของพวกตะวันออกกลาง นี่มันเรืองของพวกยุโรปพวกฝรั่ง เราคนไทยไม่เกี่ยว ใครเค้าจะมาทำอะไรเรา เมื่อหลายปีก่อนจำเหตุการณ์ วางระเบิดที่เกาะบาหลีได้ไหมครับ เกิดเมื่อปี 2545 ตายกันไป 200 กว่าศพ เป็นนักท่องเที่ยวชาวออสเตรเลียซะ 80 กว่าคน นั้นก็เป็นเหตุการณ์ที่ใกล้ๆบ้านเรา แม้นแต่ในไทยเอง ไม่ใช่เราไม่เคยมีการก่อการร้ายนะครับ เรามีหลายครั้งเลยทีเดียว หรือการรอดพ้นคาร์บอมขนาดใหญ่อย่างหวุดหวิดเมื่อปี 2537 วัตถุระเบิดที่พบครั้งนั้น ขนาด 1 ตันนี่ทำลายตึกได้ทั้งหลัง รัศมีทำลายล้างเป็น กมๆเลย ถ้าไอ้แขกที่มันกำลังจะขับคาร์บอมไม่ชนกับมอไซค์แล้วหนึไปก่อนนี่ งานนั้นดูไม่จืดแน่นอน ไม่อยากคิดเลยครับ
หลายๆประเทศที่ผมมีโอกาสเดินทางไปถ่ายสารคดีก็มีเรื่องอย่างนี้ครับ ประเทศไหนที่เจอบ่อยหรือเจอประจำก็เข้มงวดซีเรียสกันแบบกระดิกตัวไม่ได้ อย่างที่เคนย่าที่เพิ่งไปมานี่ ก็เจอกับเรื่องแนวนี้บ่อยครั้ง ทั้งสังหารหมู่ คาร์บอม ในเมืองไนโรบีซึ่งเป็นเมืองหลวงของเคนย่า จะมีความเข้มงวดเรื่องความปลอดภัยเป็นอย่างมาก อาคารสถานที่สำคัญๆห้ามถ่ายรูปเด็ดขาด ไม่ว่ากล้องอะไร ถ่ายปุ๊บ จะมีเจ้าหน้าที่เข้ามาจัดการกับคุณเลย เดี่ยวเรื่องนี้ผมจะเขียนอย่างละเอียดอีกครั้ง
เมื่อความรุนแรงมันเกิดได้เสมอและแน่นอนครับไม่มีใครรู้เล่วงหน้า เราจะทำอย่างไรซึ่งผมก็แนะนำว่า ถ้าท่านเป็นนักท่องเที่ยวธรรมดาไม่ได้ไปทำงานอะไร พื้นที่ตรงไหนมีแนวโน้มความรุนแรง มีความเสี่ยงก็เลี่ยงเถอะครับ อย่าได้ไปเฉียดอย่าได้ไปใกล้ เกิดอะไรมาไม่คุ้มเลย ถ้าเดินทางเที่ยวเองต้องหาข้อมูลให้พร้อมและทันสมัย หรือแม้นแต่จะไปกับทัวร์ก็แล้วแต่ ตัวเราเองก็ต้องมีข้อมูลพื้นที่นั้นๆด้วยเหมือนกัน ไม่ใช่ไม่รู้เรื่องอะไรเลย เชื่อผมเถอะครับ ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน เท่านั้น วันนี้สั้นๆครับ ขอให้โชดดีทุกท่านครับ
ส่วนคลิบวิดิโอที่เอามาให้ดูนี่ ไม่เกี่ยวอะไรกับเรื่องวางระเบิดหรือความรุนแรงใดๆครับ แต่เกี่ยวกับความหิวล้วนๆ เป็นการขายกล้วยหอมริมถนน ที่ไนโรบี เคนย่า ครับ ลูกละประมาณ สองสามบาท รสชาติสดอร่อยดี แก้ความหิวไปได้เยอะ บ้านเราน่าจะมีขายบ้างนะ มีแต่กล้วยแขก 5555
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น